บทความ

อยากทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า เริ่มต้นอย่างไรให้ไปรุ่ง

ธุรกิจนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้าเป็นธุรกิจที่อยู่ในความสนใจของหลาย ๆ คน เนื่องจากการนำสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสินค้าที่ไม่มีจำหน่ายในตลาดประเทศไทย ส่วนการส่งออกสินค้าก็เป็นการนำสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไทยไปสร้างมูลค่าเพิ่มในต่างประเทศ แล้วเราควรเริ่มต้นธุรกิจของเราอย่างไร เพื่อให้นำไปสู่การสร้างความมั่นคงในการค้าขายต่อไปในอนาคต รวมไปถึงความสามารถในการขยายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น การเริ่มต้นที่ดีนำไปสู่รากฐานของธุรกิจที่มั่นคง มีแนวทางปฏิบัติดังต่อไปนี้

แนวทางการเริ่มต้นเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้า สู่การสร้างธุรกิจที่มั่นคง

เมื่อพูดถึงธุรกิจนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า หลายคนเริ่มต้นด้วยคำว่า “โลจิสติกส์” ซึ่งก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่โลจิสติกส์ยังไม่ใช่การเริ่มต้นของผู้ประกอบการใหม่ โลจิสติกส์คือปลายทางที่บ่งบอกว่าคุณได้ทำธุรกิจของคุณลุล่วงแล้ว เพราะเมื่อไหร่ที่โลจิสติกส์เข้ามามีบทบาทในธุรกิจแสดงว่าการค้าขายได้ตกลงกันจบสิ้นแล้ว การสร้างผลกำไรได้เกิดขึ้นแล้วนั่นเอง ดังนั้น จุดเริ่มต้นของธุรกิจจึงอยู่ที่รายละเอียดต่อไปนี้

• สินค้าคืออะไร ขายให้ใคร คุณจำเป็นต้องระบุสินค้าที่ต้องการขายให้ได้ก่อนว่าต้องการขายสินค้าอะไร จากนั้นจึงมองหากลุ่มลูกค้าว่ามีความต้องการสินค้าชนิดนี้มากหรือน้อยเพียงใด โดยการมองกลุ่มลูกค้าควรมองในระดับโลก ไม่ใช่ตัดสินจากความต้องการภายในประเทศ เพราะมีนักธุรกิจหลายคนที่ประสบความสำเร็จจาการนำเข้าสินค้ามาเพื่อส่งออกไปขายต่อยังประเทศอื่น ๆ คือสามารถเป็นได้ทั้งผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าในเวลาเดียวกัน ดังนั้น การกำหนดสินค้า กำหนดกลุ่มเป้าหมาย คือขั้นตอนแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ

• สำรวจราคาตลาด เมื่อได้สินค้าที่ต้องการขายแล้ว คุณจะต้องรู้ราคาตลาดว่าสินค้านั้น ๆ มีราคาตลาดอยู่ที่เท่าไหร่ การทราบราคาตลาดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าต้องนำเข้าสินค้ามาขาย หรือจะสั่งผลิตในประเทศไทยเพื่อนำออกไปขาย อีกทั้งราคาตลาดยังช่วยให้การกำหนดราคาทุนและผลกำไรมีความชัดเจนและง่ายขึ้นด้วย

• ขายที่ไหนดี ปัจจุบันช่องทางการขายสินค้ามีให้เลือกทำการตลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขายทางหน้าร้าน หรือการขายทางออนไลน์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การโปรโมทสินค้ามีความง่ายขึ้นกว่าการขายรูปแบบเดิม ที่อาศัยเพียงหน้าร้านหรือโชว์รูมเพียงอย่างเดียว

• นำเข้าหรือส่งออกดี มาถึงส่วนนี้บริษัทโลจิสติกส์จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจของคุณ โดยการเริ่มมองหาบริษัทโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพสำหรับเป็นพาร์ทเนอร์ หรือที่ปรึกษาในด้านการขนส่งสินค้า เพื่อป้องกันปัญหาของติดหรือของโดนยึดสนามบินหรือท่าเรือ เพราะบริษัทโลจิสติกส์จะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าทั่วโลก ลำดับต่อมาคือคุณต้องทราบว่าสินค้าที่ต้องการขายนั้นเป็นประเภท Mass ที่เน้นจำนวนมาก ไม่เน้นแบรนด์หรือไม่ โดยตลาดสินค้า Mass ที่ใหญ่จริง ๆ คงไม่พ้นประเทศจีน หากเป็นเช่นนั้นการนำเข้าก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้าหากสินค้าจากตลาดในประเทศจีนมีราคาต้นทุนสูง การสั่งผลิตในประเทศไทยอาจจะมีความคุ้มค่ากว่า กรณีนี้การส่งออกก็จะเกิดขึ้น

• ขนส่งช่องทางไหนดี การขนส่งสินค้ามีทั้งทางอากาศคือเครื่องบิน ทางทะเลคือเรือบรรทุกสินค้า และทางบกคือรถขนส่งหรือรถเทรลเลอร์ โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือทางเรือเพราะมีค่าใช้จ่ายไม่สูงและขนส่งได้ครั้งละมาก ๆ ส่วนการจะเลือกว่าสินค้าจะเหมาะกับการขนส่งแบบไหน ขึ้นอยู่กับตัวสินค้าเองว่ามีความเร่งด่วนในการส่งหรือไม่ หากมีความเร่งด่วนช่องทางที่เหมาะสมที่สุดคือทางเครื่องบิน โดยรายละเอียดเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรต่าง ๆ คุณสามารถแต่งตั้งชิปปิ้งเคลียร์ภาษีให้เข้ามาอำนวยความสะดวกแก่คุณได้

• เป็นผู้นำเข้า-ส่งออกอย่างเต็มตัว เมื่อคุณเริ่มมองแนวทางธุรกิจของคุณออกแล้ว คุณก็พร้อมที่จะเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าแล้ว ด้วยการไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมของกรมการค้าต่างประเทศ โดยคุณสามารถไปดำเนินการด้วยตัวเองได้ หรือจะแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทโลจิสติกส์ไปดำเนินการแทนก็ได้เช่นกัน

• พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้เป็นผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าแล้ว อย่าลืมศึกษาข้อกำหนดของสินค้าแต่ละประเภทเพิ่มเติม เพราะสินค้าทุกชนิดมีทั้งสินค้าปกติและสินค้าพิเศษที่ต้องมีการขอใบรับรองจากหน่วยงานราชการและใบอนุญาตนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า และโปรดอย่าสับสนระหว่างใบรับรองสินค้ากับใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออก ซึ่งเป็นเอกสารคนละฉบับกันและออกให้จากหน่วยงานที่แตกต่างกัน ไม่สามารถใช้แทนหรือใช้ร่วมกันได้ หากไม่เข้าใจควรรีบปรึกษาบริษัทโลจิสติกส์ที่ใช้บริการทันที

แนวทางปฏิบัติในการเริ่มต้นเป็นผู้นำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้าดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นแนวทางที่คุณต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจและเริ่มต้นทำไปทีละขั้นตอนอย่างใจเย็น เพราะธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้านอกจากจะสร้างรายได้ สร้างกำไรให้กับคุณแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่มีความละเอียดอ่อน มีหน่วยงานหลากหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่คุณไม่อาจมองข้ามหรือไม่สนใจได้ เพราะหากสินค้าของคุณขาดเอกสารสำคัญเพียงฉบับเดียว การค้าขายของคุณจะเกิดความล่าช้าขึ้นในทันที และมีโอกาสที่จะไม่ได้นำเข้า-ส่งออกสินค้าในครั้งนั้น ๆ เลย