บทความ

บริการส่งของแบบปิดตู้สินค้าครบวงจร ให้บริการอะไรบ้าง

การขนส่งสินค้าแบบปิดตู้สินค้า หรือ Full Container Load (FCL) หรือที่หลาย ๆ คนจะคุ้นเคยเรียกกันอย่างติดปากว่า “ตู้เต็ม” เป็นการขนส่งสินค้าทางเรือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในราคาที่ถูก สามารถขนส่งได้ครั้งละมาก ๆ และชิปปิ้งเคลียร์ภาษีได้ง่าย เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ส่งออกมีความคุ้นเคยกับการขนส่งในรูปแบบนี้ และทราบถึงหลักการปฏิบัติเป็นอย่างดี ทำให้ขั้นตอนในการเดินพิธีการศุลกากรของชิปปิ้งมีความสะดวกและรวดเร็ว ส่วนผู้ประกอบการใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการส่งของรูปแบบนี้ สามารถศึกษาและทำความเข้าใจขั้นตอนและการให้บริการแบบครบวงจรได้ดังต่อไปนี้

การให้บริการแบบครบวงจรกับการขนส่งแบบปิดตู้สินค้า มีบริการอะไรบ้าง

การส่งของแบบปิดตู้สินค้าหรือ FCL หมายถึงการบรรจุสินค้าเต็มทั้งตู้คอนเทนเนอร์ โดยที่น้ำหนักไม่เกินพิกัดที่ไซส์ตู้นั้น ๆ กำหนด หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสินค้าทั้งตู้คือของผู้ประกอบการเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น โดยปัจจุบันบริษัทโลจิสติกส์ต่างพยายามให้บริการการขนส่งแบบครบวงจร เพื่อความสะดวกในการติดต่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ รวมไปถึงการให้บริการเจ้าหน้าที่เดินพิธีการศุลกากรที่มีความเชี่ยวชาญในงานเอกสารและรับเคลียร์ภาษีท่าเรือทุกท่า การให้บริการแบบครบวงจรมีอะไรที่ผู้ประกอบการควรทราบ มีรายละเอียดมีดังต่อไปนี้

การจองเรือ หรือเรียกว่าการ Booking จะเกิดขึ้นเมื่อสินค้าของผู้ประกอบการผลิตเสร็จเรียบร้อย พร้อมทั้งตรวจสอบคุณภาพแล้ว จากนั้นผู้ประกอบการจะต้องติดต่อไปยังบริษัทโลจิสติกส์เพื่อขอจองเรือ โดยทางบริษัทจะส่งตารางเดินเรือของแต่ละสายการเดินเรือมาให้ผู้ประกอบการได้พิจารณาว่าต้องการใช้บริการสายเรือใด เมื่อเลือกได้แล้วจึงทำการติดต่อเพื่อขอจองเรือ พร้อมทั้งระบุไซส์ตู้คอนเทนเนอร์ที่ผู้ประกอบการต้องการ

รับเอกสารจองเรือ เมื่อจองเรือเรียบร้อยแล้วผู้ประกอบการจะได้รับใบ Booking Confirmation กลับมา ซึ่งขั้นตอนนี้จะรวดเร็วมาก เพียงแค่จองเรือเสร็จก็จะได้รับเอกสารคอนเฟิร์มแทบจะทันทีทางอีเมล โดยภายในเอกสารจะระบุชื่อผู้ส่ง-ผู้รับสินค้า, รายละเอียดสินค้า, ไซส์ตู้, น้ำหนักสินค้า, ชื่อเรือพร้อมวอยย์เรือ, วันเรือเข้าและออกจากประเทศไทย, วันลากตู้เปล่าและวันคืนตู้, ประเทศปลายทางที่รับสินค้า และวันที่เรือถึงปลายทาง โดยขั้นตอนนี้ผู้ประกอบการสามารถยกเลิกการจองได้หากยังไม่มีการลากตู้เปล่าไป แต่หากมีการลากตู้เกิดขึ้นแล้วการยกเลิกจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทันที ในทางกลับกันหากเป็นการนำเข้าสินค้าผู้ประกอบการก็จะได้ทราบรายละเอียดเช่นนี้เหมือนกัน

การส่งสินค้า เมื่อจองเรือเรียบร้อยแล้วบริษัทโลจิสติกส์จะให้บริการรถหัวลากเพื่อไปลากตู้คอนเทนเนอร์ที่ลานเก็บตู้ เพื่อมารับสินค้าของผู้ประกอบการตามวันที่กำหนด โดยขั้นตอนนี้ผู้ประกอบการสามารถใช้รถหัวลากของตัวเองไปรับตู้ได้ เมื่อลากตู้มาถึงลานบรรจุสินค้าของผู้ประกอบการแล้ว ผู้ประกอบการจะได้ทราบเบอร์ตู้คอนเทนเนอร์และเบอร์ซีลที่ใช้ล็อกตู้ จากนั้นให้ส่งเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้ชิปปิ้งเคลียร์ภาษีเพื่อดำเนินการจัดทำใบขนและเดินพิธีการศุลกากร โดยการแจ้งเบอร์ตู้และเบอร์ซีลห้ามผิดพลาดแม้แต่ตัวเดียว เพราะจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดตามมาอีกมากมาย และเมื่อบรรจุสินค้าเรียบร้อยให้ใช้ความรอบคอบในการปิดตู้และล็อกซีล โดยต้องตรวจสอบซีลทุกครั้งว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก่อนล็อกซีล และหากจำเป็นต้องแกะซีลออกต้องแจ้งบริษัทโลจิสติกส์ทุกครั้งถึงเหตุผลของการแกะซีล เพื่อให้บริษัทโลจิสติกส์ดำเนินการติดต่อเพื่อเปลี่ยนซีลให้ใหม่ โดยขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนซีล ซึ่งบางบริษัทโลจิสติกส์ “อาจจะ” ไม่คิดเก็บค่าใช้จ่ายเป็นรายกรณีไป

ขั้นตอนการคืนตู้ ในการลากตู้มาคืนเพื่อเตรียมการยกขึ้นเรือสำหรับการขนส่ง หากใช้บริการรถหัวลากของบริษัทโลจิสติกส์ ปัญหาเรื่องคืนตู้ไม่ทันวันที่กำหนดจะไม่ค่อยพบ แต่หากผู้ประกอบการใช้รถหัวลากของตัวเองจะต้องกำชับให้คนขับรถไปถึงท่าเรือให้ทันกำหนดตามวันและเวลาที่ระบุในใบ Booking Confirmation โดยหากคืนตู้ไม่ทันกำหนด จะเกิดกรณีที่เรียกว่า “ตู้ตกเรือ” คือไม่สามารถยกตู้ขึ้นเรือได้ทัน ผู้ประกอบการจะต้องติดต่อชิปปิ้งเคลียร์ภาษี เพื่อทำการ Booking เรือใหม่ทั้งหมด และกรณีตู้ตกเรือจะมีค่าใช้จ่ายในการวางตู้ที่ท่าเรือจนกว่าเรือเที่ยวใหม่จะมา ซึ่งเป็นปัญหาที่ค่อนข้างวุ่นวายและมีค่าใช้จ่ายจิปาถะ ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการจึงเลือกใช้บริการขั้นตอนทั้งหมดจากบริษัทโลจิสติกส์เพื่อป้องกันปัญหาความผิดพลาดที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่าย

ด้วยขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีว่าเหตุใดผู้ประกอบการจึงเลือกใช้บริการขนส่งแบบปิดตู้สินค้ากับบริษัทโลจิสติกส์แบบครบวงจร เพราะช่วยทุ่นแรงและลดภาระค่าใช้จ่ายที่ควรเกิดให้กับผู้ประกอบการ อีกทั้งยังติดตามสอบถามได้ง่ายและชิปปิ้งเคลียร์ภาษีได้รวดเร็ว การขนส่งและการส่งออกไม่มีปัญหาตั้งต้นทางจนถึงปลายทาง