บทความ

เลือกทำธุรกิจซื้อขายสินค้ากับประเทศจีน มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้

ต้องยอมรับว่าประเทศจีนเป็นตลาดการค้าที่มีทรัพยากรอยู่มากมาย และยังเป็นตลาดสินค้าประเภท Mass ที่ใหญ่ที่สุด หากถามว่าการค้าขายกับประเทศจีนยากหรือไม่ ต้องตอบว่า “ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย” ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าสินค้าหรือการส่งออกสินค้า หากประเทศคู่ค้าคือประเทศจีน คุณควรทราบข้อมูลพื้นฐานอะไรบ้าง และที่ผ่านมาการค้าขายกับประเทศจีนเกิดข้อผิดพลาดตรงจุดไหนมากที่สุด เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว

รู้ก่อนเริ่มธุรกิจค้าขายกับประเทศจีน มีข้อมูลสำคัญอะไรบ้างที่ต้องรู้

ตลาดการค้าในประเทศจีนไม่ได้เพิ่งมาเป็นที่นิยมในยุคออนไลน์ แต่ประเทศจีนมีความยิ่งใหญ่ระดับเป็นตลาดโลกมาก่อนยุคออนไลน์ ดังนั้น จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งภาพที่นักธุรกิจรุ่นใหม่มองตลาดจีนไว้อาจจะไม่เป็นอย่างคิด ดังข้อมูลที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับการค้าขายกับประเทศจีนในยุคปัจจุบัน ว่าคุณควรดำเนินธุรกิจไปในทางใดเพื่อให้เกิดผลกำไรมากที่สุด และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดดังข้อมูลต่อไปนี้

  • ระบุพอร์ตผิด เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าสินค้าหรือส่งออกสินค้า หากระบุชื่อพอร์ตที่ต้นทางและปลายทางผิดนั้นของติดด่านศุลกากรทันที และในบางครั้งของจะไม่ได้ถูกยกลงมาจากเครื่องบินหรือจากเรือสินค้าด้วย และประเทศจีนคือประเทศที่มีการระบุพอร์ตผิดมากที่สุด เนื่องจากมีการเรียกชื่อที่คล้าย ๆ กัน อีกทั้งยังมีพอร์ตบางพอร์ตที่ถูกยกเลิกไป และไปเปิดใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทำให้คนที่ยังคุ้นเคยกับพอร์ตเก่าอยู่ก็ระบุพอร์ตผิด ส่วนพอร์ตที่มีชื่อคล้ายคลึงกัน เช่น เซินเจิ้น กับ เซี่ยเหมิน เป็นต้น เป็นพอร์ตที่มีการระบุผิดมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่คนจะพูดสลับกัน หรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่เปิดกิจการมานาน ๆ ก็ยังมีการระบุพอร์ตผิด จนกว่าจะได้มีการสะกดคำกัน ซึ่งหากมองเผิน ๆ ก็มีความคล้ายคลึงกันอีกคือ Port of Xiamen กับ Port of Shenzhen ดังนั้น ระมัดระวังภาษาพูดและภาษาเขียนในการ Booking พอร์ตของประเทศจีนให้ดี เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายในเปลี่ยนพอร์ตสูง
  • ค่าใช้จ่ายไม่ถูกอย่างที่คิด ในอดีตการส่งออกไปประเทศจีน หากสินค้าไม่ถึง 10 กิโลกรัม และบริษัทโลจิสติกส์ที่ใช้บริการมีความสนิทสนมกับเอเย่นต์ที่ประเทศจีน อีกทั้งยังคุ้นเคยกับผู้ประกอบการเป็นอย่างดี การขายเฟรทแทบจะเรียกว่า Free Freight กันได้เลย คือส่งให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นของสมนาคุณแทนคำขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ จากบริษัทโลจิสติกส์ที่มอบให้กับลูกค้าที่ใช้บริการกันมายาวนาน แต่ในปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะค่าแรงและค่าขนส่งในประเทศจีนมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามการเติบโตของตลาดและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ดังนั้น ตรวจสอบราคาตลาดทุกครั้งที่ทำการค้าขาย เพราะสินค้าจากจีนไม่ใช่สินค้าที่มีราคาถูกที่สุดเช่นในอดีต
  • รอบคอบกับสัญญาซื้อขาย ต่อเนื่องจากข้อมูลด้านบนว่าสินค้าจากจีนไม่ใช่สินค้าที่มีราคาถูกที่สุดในปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อผู้ประกอบการทำสัญญาซื้อขายสินค้า ควรจะทราบราคาตลาดที่เป็นราคากลาง และหากพบว่าสัญญาซื้อขายมีราคาที่ต่ำจนเกินไปอย่าเพิ่งรีบดีใจที่จะได้กำไรมากขึ้น ควรพิจารณาให้รอบคอบว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่สินค้าจะมีราคาต่ำกว่าตลาดขนาดนี้
  • ตรวจสอบพิกัดอัตราศุลกากร ทุกครั้งที่มีการซื้อขายสินค้ากับประเทศจีน ผู้ประกอบการควรปรึกษาบริษัทโลจิสติกส์ที่ใช้บริการ ให้ชิปปิ้งเคลียร์ภาษีช่วยเช็กพิกัดสินค้าและอัตราศุลกากร รวมไปถึงเช็กรายละเอียดสินค้าว่ามีส่วนใดที่เป็นสินค้าต้องขอใบอนุญาตพิเศษหรือไม่ เช่น การนำเข้า-ส่งออกเครื่องจักร หรือการนำเข้า-ส่งออกเครื่องสำอาง เป็นต้น
  • สินค้าส่งออกยอดฮิต การส่งออกสินค้าไปขายให้กับกลุ่มลูกค้าชาวจีน มีสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมและมีความต้องการซื้อสูง ซึ่งคนไทยสามารถสร้างกำไรจากการส่งออกได้ คือ “ขนมไทย” โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวที่มีแคลอรี่ต่ำ, ผลไม้อบแห้ง ที่ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดยอดส่งออกผลไม้อบแห้งของไทยไปจีนมีจำนวนสูงขึ้น และครีมกันแดด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนจีนเป็นอย่างมาก ด้วยการที่คนจีนสังเกตว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แต่ทำไมดาราไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในประเทศจีนกลับมีผิวที่ขาวสวย ทำให้คนจีนที่คลั่งไคล้ดาราไทยหันมาใช้สกินแคร์ ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดดจากประเทศไทยกันมากขึ้น

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เราจะสังเกตได้ว่าประเทศจีนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น ตลาดนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้าของประเทศจีนจึงเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีผลกระทบเลย อีกทั้งยังเพิ่มปริมาณการส่งออกมาขึ้นด้วย เพราะคนจีนไม่สามารถมาเที่ยวเมืองไทยได้เหมือนเดิม ทำให้ความต้องการซื้อเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการยุคใหม่จะได้ค้าขายกับประเทศที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด และยังเป็นประเทศที่ต้องสินค้าจากประเทศไทยมากที่สุดอีกด้วย